การเนรเทศ 13 ปี ของ อรชุน

หลังจากยุธิษฐิระแพ้พนันสกา เหล่าพี่น้องปาณฑพได้ออกเดินป่า เป็นเวลา 13 ปี

พระศิวะมอบศรปาศุปัตให้อรชุน

การบำเพ็ญตบะเพื่อขอศรปาศุปัต

อรชุนในระหว่างที่เดินป่าได้ปลีกตัวไปบำเพ็ญตบะเพื่อขอศรปาศุปัตจากพระศิวะ จนกระทั่งพระศิวะพอพระทัย ก็เสด็จลงมาแปลงร่างเป็นพรานป่า ในขณะที่อรชุนกำลังบำเพ็ญตบะ มีหมูป่าพุ่งมาจะทำร้ายอรชุน อรชุนได้ยิงธนูใส่ปากของหมูป่า แต่เมื่อไปดูปรากฏว่ามีธนูอยู่สองดอก และมีพรานป่าแสดงตัวว่าเป็นผู้ยิง อรชุนไม่ยอมจึงสู้กับพรานป่า แต่ไม่อาจสู้ได้ อรชุนจึงยอมแพ้ พรานป่าคืนร่างเป็นพระศิวะ และมอบศรปาศุปัตให้อรชุน และยังมีบัญชาให้เทพโลกบาลทั้งสี่ คือ ท้าวกุเวร พระวรุณ พระยม และพระอินทร์มามอบศาตราวุธและของวิเศษให้แก่อรชุน หลังจากนั้นพระอินทร์ได้พาอรชุนผู้เป็นบุตรไปท่องสวรรค์

การท่องสวรรค์ของอรชุน

อรชุนมาถึงเมืองอมรวดี บนสวรรค์ พระอินทร์ได้ต้อนรับอรชุนด้วยนางอัปสรทั้งสี่ คือ นางรัมภา นางเมนกา นางติโลตมา นางอุรวศี พระอินทร์ได้มอบของวิเศษให้อรชุนมากมาย และให้อรชุนเที่ยวชมได้ทั้งสวรรค์ ระหว่างอยู่ในสวรรค์อรชุนได้เรียนวิชาดีดพิณ ตีกลอง และการเต้นรำ จากคนธรรพ์จิตรเสน

การปราบพวกนิวัตกวัจและพวกกาลเกยะ

พระอินทร์ได้ขอร้องให้อรชุนปราบอสูรสองเผ่า คือ พวกนิวัตกวัจ และ พวกกาลเกยะ ซึ่งมีอิทธิฤทธิ์มาก อรชุนได้ลงไปยังเมืองใต้บาดาลของพวกนิวัตกวัจและใช้ศรโมหิณีและศรมาธวะทำลายเมืองของพวกเขา และขึ้นไปยังเมืองหิรัญปุระ บนอากาศ ของพวกกาลเกยะ และใช้ศรรุทระทำลายเมืองหิรัญปุระจนราบคาบ

นางอุรวศีสาปอรชุน

อรชุนต้องคำสาปนางอุรวศี

วันหนึ่งระหว่างที่อรชุน อยู่ในตำหนักบนสวรรค์ นางอุรวศีได้เข้ามายังห้องของอรชุน และต้องการเสพสมกับอรชุน แต่อรชุนปฏิเสธเพราะนางอุรวศี เคยแต่งงานกับท้าวปุรูรพ ปฐมกษัตริย์แห่งจันทรวงศ์ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของตน นางอุรวศีจึงสาปให้อรชุนกลายเป็นขันที ไปตลอดชีวิต แต่พระอินทร์ได้ขอให้นางผ่อนผันคำสาป นางจึงลดให้เหลือแค่ปีหนึ่ง อรชุนจึงต้องกลายเป็นขันทีหนึ่งปี นั่นคือในปีสุดท้ายของการเนรเทศ